top of page

ทุนการศึกษากับโอกาสที่หายไปของสายศิลป์


ree


เคยสังเกตไหมว่า ทำไมทุนการศึกษาสำหรับสาขาวิศวกรรมศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์มีมากมาย ในขณะที่หากอยากเรียนสาขาเฉพาะทางในสายศิลป์ เช่น ภาพยนตร์ ดนตรี ปรัชญา วรรณกรรม กลับมีทุนสนับสนุนน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกัน


ในประเทศไทย ระบบทุนการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แต่การกระจายทุนยังคงมีความไม่สมดุลอย่างเห็นได้ชัด การจัดสรรทุนการศึกษาส่วนใหญ่จะเทไปที่สาขา STEM (วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์) หรือสาขาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และดิจิทัล ในขณะที่สาขาศิลป์ เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ศิลปะ วรรณกรรมหรือปรัชญา กลับมาโอกาสน้อยมากในการเข้าถึงทุนสนับสนุน โดยเฉพาะจากภาครัฐ


ความไม่สมดุลนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคน “ไม่เห็นคุณค่า” ของศิลปะ แต่อาจเกิดจากระบบที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการการแรงงานเฉพาะทาง จนบางครั้งทำให้คุณค่าทางสังคม วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ของสายศิลป์ถูกมองข้ามไป

วันนี้มูลนิธิมาทิลดาจึงอยากชวนกับขบคิดถึงสาเหตุของความไม่สมดุลนี้ค่ะ


Demand & Supply และความเสี่ยง

  • หน่วยงานที่ให้ทุนมีเป้าหมายเฉพาะทาง

ทุนการศึกษาจำนวนมากมาจากภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น ทุน ก.พ. ทุน สวทช. หรือทุนจากองค์การขนาดใหญ่ เช่น ปตท. ธนาคารแห่งประเทศไทย ฯลฯ ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนคือ “การสร้างบุคลากรที่ตรงกับความต้องการขององค์กร” และมีข้อกำหนดให้ผู้รับทุนต้องกลับมาทำงานชดใช้ทุนในสายงานที่กำหนดไว้ ทำให้สาขาที่อยู่นอกความต้องการขององค์กร หรืออยู่นอก “เส้นทางสายหลัก” เช่น สายศิลป์แขนงต่าง ๆ มักจะไม่อยู่บรรจุอยู่ในแผนการให้ทุน


  • นโยบายระดับประเทศและแนวโน้มของอุตสาหกรรม

นโยบายเศรษฐกิจอย่าง Thailand 4.0 และการสนับสนุน S-Curve Industries เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง เช่น หุ่นยนต์อุจฉริยะ อุตสาหกรรมการบ้าน โลจิสติกส์ หรือเทคโนโลยีชีวภาพ การให้ทุนการศึกษาจึงมุ่งไปที่การผลิตแรงงานที่มีคุณภาพในสาขาเหล่านี้ มีส่วนทำให้ทุนการศึกษาในสาขาอื่น ๆ ถูกละเลยโดยปริยายด้วยทรัพยากรทุนการศึกษาที่มีจำกัด


  • ความเสี่ยงของอาชีพและการวัดผลความสำเร็จ

งานในสาขา STEM มีเส้นทางอาชีพที่ชัดเจนและสามารถวัดความสำเร็จได้จากตำแหน่งงาน รายได้ หรือผลงาน ในขณะที่อาชีพทางศิลป์หลายอาชีพ เช่น นักดนตรี ศิลปินแขนงต่าง ๆ นักแสดงหรือผู้กำกับภาพยนตร์ อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการสั่งสมประสบการณ์และสร้างชื่อเสียง และความสำเร็จอาจไม่สามารถวัดได้ด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียว


แล้วต่างประเทศเขาจัดการเรื่องนี้อย่างไร?

ประเทศที่มีระบบทุนการศึกษาที่หลากหลายมักจะให้ความสำคัญกับศิลปะและมนุษยศาสตร์เท่า ๆ กันกับสาขาวิทยาศาสตร์หรือ STEM ยกตัวอย่างเช่น เยอรมนีมีทุนการศึกษา DAAD สำหรับสาขาดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ และศิลปะการแสดง รวมถึงโครงการ Artist-in-Residence เพื่อสนับสนุนการสร้างผลงานด้วย ในขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศยอดนิยมในการศึกษาต่อต่างประเทศของผู้คนจากทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ก็มีทุนการศึกษาสำหรับผู้คนจากหลากหลายอาชีพ และมีหน่วยงานให้ทุนมากมาย เช่น สถาบัน Arts Council มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็มีทุนสนับสนุนการศึกษาและการวิจัย รวมถึงทุนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอย่าง Chevening ซึ่งครอบคลุมการศึกษาหลายแขนง ไม่จำกัดเฉพาะสาขา STEM เท่านั้น หรือ EU ที่มีทุน Erasmus ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกสามารถเรียนต่อในสหภาพยุโรปก็มีทางเลือกสาขาการเรียนได้หลากหลาย ตัวอย่างจากภูมิภาคอื่น เช่น ญี่ปุ่น ก็มีทุน MEXT (Monbukagakusho) หรือ ฝรั่งเศส ซึ่งมีทุน École Normale Supérieure (ENS) International Selection สำหรับทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ เป็นต้น


มูลนิธิมาทิลดา: เติมเต็มช่องว่างอย่างไม่แบ่งแยก

มูลนิธิมาทิลดาก่อตั้งบนพื้นฐานความเชื่อว่า ความฝันของทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน เราไม่ได้มองว่าการให้ทุนกับสาขาหลักอย่างวิศวกรรมหรือการแพทย์เป็นเรื่องผิดหรือต้องจำกัดจำนวน แต่เราต้องการสร้าง “อีกช่องทางหนึ่ง” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เลือกเดินในเส้นทางสร้างสรรค์มีโอกาสเข้าถึงทุนอย่างเสมอภาคด้วยเช่นกัน ดังนั้น จุดยืนของมูลนิธิฯ จึงชัดเจนว่า ทุนการศึกษาคือเรื่องของโอกาส ไม่ใช่เครื่องมือจำกัดความฝัน เราจึงให้ทุนโดยไม่กำหนดสาขา และไม่ผูกพันให้ผู้รับทุนต้องกลับมาทำงานกับเรา เป้าหมายคือการปลดล็อกข้อจำกัดที่อาจทำให้คนที่มีความฝันในสายศิลป์ต้องยอมแพ้เพราะขาดการสนับสนุน


เรามองว่า การมีระบบนิเวศน์ของทุนการศึกษาที่หลากหลาย จะช่วยให้สังคมไทยเติบโตอย่างสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เพราะโลกไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการเรื่องราว เพลง ภาพ และความคิดสร้างสรรค์ที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจผู้คน


ทุนการศึกษาที่ดีต้องเปิดประตูให้ทุกความฝัน

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและต้องการนวัตกรรมใหม่ ๆ การมองเพียง “สิ่งที่ตลาดต้องการตอนนี้” อาจทำให้เราพลาดการลงทุนในความสามารถที่สร้างคุณค่าได้ในอนาคต ทุนการศึกษาที่ดีจึงควรเป็นเหมือนประตูที่เปิดให้ทุกคนได้เลือกเดินในเส้นทางที่ตนรัก ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางที่ชัดเจนอย่าง Data Scientist หรือเส้นทางที่เน้นการสร้างสรรค์ผลงานเชิงศิลป์อย่างกวีและนักดนตรี


โอกาสไม่ควรขึ้นอยู่กับสายวิชาที่คุณเลือก แต่ควรขึ้นอยู่กับความตั้งใจและศักยภาพของคน นี่คือเหตุผลที่เราควรเดินหน้าสนับสนุนผู้เรียนทุกสาขาอย่างเท่าเทียม

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page